รู้ไหมว่ามากกว่า 80% ของผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ มีอาการก่อนอายุ 20 ปี ยิ่งไปกว่านั้นหากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง อาจส่งผลให้เกิดภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ ที่อาจเป็นอันตราย หรือกลายเป็นโรคประจำตัวของพวกเขาในอนาคตได้อีกด้วย
วันนี้เราจะมาทำความรู้จักโรคภูมิแพ้จมูก อีกหนึ่งโรคภูมิแพ้ที่เด็กๆ มักจะเป็นกัน เพื่อที่จะป้องกัน และดูแลลูกน้อยของคุณได้อย่างทันท่วงทีกันค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก Vejthani Hospital
อาการของโรค
✅ สังเกตง่ายๆ คืออาการของโรคภูมิแพ้จมูกจะไม่มีไข้ แต่นอกนั้นจะคล้ายกับไข้หวัด ไม่ว่าจะเป็น มีน้ำมูกใส จามบ่อย คัดจมูก คันในจมูก และมีเสมหะ
อีกทั้งบางรายอาจส่งผลต่อตาด้วย เช่น คันตา เคืองตา ตาบวม น้ำตาไหล อันเกิดจากการอักเสบของเยื่อบุภายในตา หรือที่เรียกว่า Allergic conjunctivitis โดยส่วนใหญ่จะเป็นตอนเช้า หรือกลางคืน ประมาณวันละ 1-2 ชั่วโมง
วิธีป้องกันลูกน้อยจากโรคภูมิแพ้
✅ คอยดูแลให้เด็กหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ทั้งภายในบ้าน และนอกบ้าน เช่น ฝุ่น ไรฝุ่น แมลงสาบ ขนของสัตว์เลี้ยง เชื้อราในอากาศ ควัน เกสรดอกไม้ และฝุ่นละออง
✅ เสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกายให้กับเด็ก โดยเริ่มตั้งแต่ยังเป็นทารก ควรให้ดื่มนมแม่เพียงอย่างเดียวอย่างน้อย 6เดือน และให้เขาได้รับอาหารเสริมตั้งแต่อายุ 4 เดือน เมื่อโตขึ้นควรให้เขารับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เป็นเวลา 30 นาทีขึ้นไป 3-4 ครั้งต่อสัปดาห์
ภาวะแทรกซ้อน
✅ โรคไซนัสอักเสบ ไซนัส โดยมีอาการปวดบริเวณใบหน้าช่วงโพรงจมูก ปวดศีรษะ น้ำมูกเขียว และบางครั้งมีเสมหะไหลลงคอ
✅ หูชั้นกลางอักเสบ โดยจะมีอาการปวดหู หูอื้อ ถ้าเป็นเรื้อรังอาจรุนแรงถึงขั้นเยื่อแก้วหูทะลุ ทำให้มีหนองไหลออกจากหู
✅ อาการนอนกรนที่เกิดจากเยื่อบุจมูกบวม จนบางครั้งอาจมีต่อมทอนซิล และต่อมอะดีนอยด์โตร่วมด้วย
✅ อาจมีอาการช่องทางเดินหายใจถูกอุดกั้น และอาจรุนแรงจนมีอาการหยุดหายใจเป็นช่วงๆ ขณะนอน ออกซิเจนต่ำ และมีผลต่อสมอง ทำให้เด็กสมาธิสั้น ส่งผลต่อพฤติกรรมและการเรียนรู้ได้
Comments